สุขภาพดีอย่างยั่งยืนกับการลดความอ้วนด้วย “กลิ่น”
สุขภาพดีอย่างยั่งยืนกับการลดความอ้วนด้วย “กลิ่น”
หลายๆ ท่านน่าจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า ”ให้ธรรมชาติ รักษาธรรมชาติ” เพราะฉะนั้น สิ่งที่กำเนิดขึ้นมาตามธรรมชาติอย่าง “ไขมัน” ที่มักจะมาควบคู่กับ “ความอ้วน” ก็น่าจะถูกขจัดออกไปได้ด้วยธรรมชาติเช่นเดียวกัน ซึ่งในครั้งนี้เราก็พบตัวเลือกที่น่าสนใจในการช่วยลดน้ำหนักและลดความอยากอาหารด้วยอาหาร รวมถึงกลิ่นจากน้ำมันหอมระเหย ที่เขาว่ากันว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย แถมยังช่วยลดความอ้วนได้อีกต่างหาก
“กลิ่น” น้ำมันหอมระเหยที่ช่วยลดความอยากอาหาร
นอกจากการนำไปใช้ในการผลิตเครื่องหอมหรือน้ำหอมแล้ว น้ำมันหอมระเหยยังถูกนำมาใช้เพื่อการบำบัดรักษามาตั้งแต่อดีตกาล โดยศาสตร์ของการรับกลิ่นจะเริ่มที่การดมกลิ่นทางจมูก ก่อนจะส่งผลไปยังสมองเพื่อหลั่งสารสำคัญต่างๆ ออกมาใช้ในการบำบัดรักษา แต่รู้หรือไม่ว่า กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยบางกลิ่น ก็สามารถช่วยลดความอยากอาหารได้เช่นกัน เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนัก แต่ยังคงมีความอยากอาหารไม่หยุด ส่วนจะเป็นกลิ่นอะไรบ้างนั้น เราลองไปดูกันเลยค่ะ
**ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
น้ำมันหอมระเหยเลม่อน
กลิ่นหวานอมเปรี้ยวจากผลเลม่อน เมื่อถูกนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยเข้มข้น กลิ่นก็จะยิ่งฟุ้งกระจายขึ้นเป็นทวีคูณ ซึ่งคุณสมบัติของความหอมนี้เองที่สามารถช่วยขับสารพิษ และช่วยลดความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี โดยผ่านการวิจัยในชิคาโก้มาแล้วอีกด้วย วิธีการใช้ก็แสนง่าย เพียงสูดดมก่อนรับประทานอาหารประมาณ 20-30 นาที
**ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
น้ำมันหอมระเหยเกรปฟรุ๊ต
ชื่อผลไม้ตระกูลส้มที่อาจไม่คุ้นหูคนไทยมากนัก แต่สำหรับสรรพคุณในการช่วยลดความอยากอาหารนั้นแทบไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าน้ำมันหอมระเหยเลม่อนเลยทีเดียว น้ำมันหอมระเหยเกรปฟรุ๊ต สามารถช่วยฟื้นฟูระบบน้ำเหลืองและการเผาผลาญไขมัน อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษที่สะสมอยู่ในไขมันส่วนเกินได้ดีเช่นกัน แถมยังใช้ง่าย คล้ายกับตัวน้ำมันหอมระเหยเลม่อนเลยล่ะค่ะ
**ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
น้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์
หากคุณกำลังคิดถึงภาพผักไทยหอมๆ ที่ไว้ใช้ในหลายเมนูของอาหารไทยอย่างสะระแหน่อยู่ล่ะก็ คงต้องขอบอกว่าพืชทั้งสองชนิดนี้แม้จะอยู่ในวงศ์เดียวกัน แต่ไม่ใช่พืชชนิดเดียวกันนะคะ เพราะในน้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์ มีคุณสมบัติในการช่วยลดความอยากอาหาร และเมื่อเราสูดเอากลิ่นของน้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์เข้าไปสักประมาณ 15-30 นาทีก่อนรับประทานอาหาร ก็จะช่วยความอยากอาหารของเราลดลงได้
**ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
น้ำมันหอมระเหยมะกรูด
น้ำมันหอมระเหยมะกรูด น่าจะดูใกล้ตัวกับชาวไทยอย่างเราๆ มากที่สุดแล้ว ซึ่งขอบอกเลยว่าถึงแม้จะหาได้ง่ายๆ แต่สรรพคุณไม่ด้อยไปกว่าน้ำมันหอมระเหยตัวอื่นเลย เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยมะกรูดสามารถช่วยลดความเครียด และช่วยให้ผ่อนคลาย ตอบโจทย์สำหรับคนที่เครียดแล้วกินดุ ทานไม่ยั้งได้อย่างตรงจุด แถมยังมีผลต่อการลดคอเลสเตอรอล ไขมัน และน้ำตาลในเลือดได้อีกต่างหาก
“กลิ่น” อาหารที่ช่วยลดความอ้วน
จากศาสตร์ของการบำบัดรักษาด้วยน้ำมันหอมระเหย สู่กลิ่นที่แฝงมากับอาหารจานโปรด ที่นอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว หลายๆ ท่านอาจไม่เคยทราบว่ากลิ่นของอาหารเหล่านี้ช่วยลดความอ้วนได้ อ่านแล้วอาจจะยังงงๆ เราว่ากำลังรับกลิ่นอาหารช่วยลดความอ้วนผ่านการสวาปามอาหารจานโปรดที่แสนอร่อย ลำพังแค่จะเผาผลาญแคลอรี่จากมื้อนี้ก็ลำบากพอทนอยู่แล้ว ยังจะเอาอะไรมาช่วยให้ผอมได้อีก เพราะฉะนั้น อยากรู้ก็ต้องตามไปอ่านกันเลยค่ะ
**ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์
หนึ่งในวัตถุดิบที่อุดมไปด้วยไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากอย่างน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ซึ่งกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าน้ำมันมะกอกนี่เอง ที่เป็นหัวใจสำคัญในการช่วยสดความอ้วน เพราะสามารถช่วยให้อิ่มเร็วกว่าปกติ เนื่องจากในน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์อุดมไปด้วยตัวช่วยในการกระตุ้นสารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มนั่นเอง
**ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
กลิ่นกระเทียม
อย่าเพิ่งรู้สึกยี้ไปกับกลิ่นฉุนอันอบอวลของกระเทียมนะคะ เพราะกลิ่นแรงจัดของกระเทียมนี่แหละค่ะ ที่เป็นตัวช่วยหลักในการช่วยควบคุมอาหาร ว่ากันว่าหากทานกระเทียมสดก่อนมื้ออาหาร หรือรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของกระทียมและเครื่องเทศกลิ่นแรง ก็จะช่วยให้เราอิ่มเร็วขึ้น นั่นก็เพราะว่ากลิ่นแรงๆ ของมันทำให้ความอยากอาหารของเราลดลงนั่นเองล่ะค่ะ
**ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
กลิ่นแอปเปิ้ลเขียวและกลิ่นกล้วย
ผลไม้กลิ่นหอมหวานที่แสนจะเป็นมิตรต่อการรับกลิ่น แถมรสชาติก็ยังเป็นที่โปรดปรานของทุกเพศทุกวัยอย่างกล้วยและแอปเปิ้ลเขียว ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะกับการลดความอ้วนด้วยกลิ่น โดยมีผลวิจัยออกมาว่ากลิ่นของผลไม้ทั้งสองชนิดสามารถควบคุมความอยากอาหารได้ และแน่นอนว่าจะได้ผลดียิ่งขึ้นเมื่อรับประทานก่อนมื้ออาหาร เพราะนอกจะลดความอยากอาหารแล้ว ยังช่วยให้อิ่มเร็วขึ้นอีกด้วย
**ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
กลิ่นยี่หร่า
ส่วนผสมเครื่องในเครื่องแกงชั้นดี ที่มีความหอมแรงตามแบบฉบับเครื่องเทศอินเดีย อย่าง ยี่หร่า ก็มีผลงานวิจัยการันตีเช่นกันว่ามีคุณสมบัติในการช่วยลดความอยากอาหาร เหมาะสำหรับคนที่นิยมทานขนมจุกจิกระหว่างมื้อ หรือสาวออฟฟิศที่นั่งทำงานไปทานขนมไปจนติดเป็นนิสัย และนำมาสู่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาจนน่าตกใจ ลองใช้กลิ่นของยี่หร่าเป็นตัวช่วยดูสิคะ
เคล็ดลับการลดความอ้วนจากกลิ่นอาหารและน้ำมันหอมระเหยที่ซิโนต้าแนะนำ อาจป็นเพียงส่วนหนึ่งจากหลายล้านสิ่ง ที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ประโยชน์ต่อร่างกายของเรา อย่างการที่อาหารเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราอ้วน สุขภาพไม่ดี มีไขมันสะสม แต่ก็เป็นอาหารอีกเช่นกันที่สามารถใช้เป็นยารักษาทางธรรมชาติได้ไปในตัว เพราะฉะนั้นการลดความอ้วนหรือกำจัดไขมันให้ได้ผลและมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน นอกจากการออกกำลังกายอย่างมีวินัยแล้ว จึงควรเลือกควบคุมอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จึงจะเป็นการให้ธรรมชาติ รักษาธรรมชาติอย่างได้ผลจริง
เพราะปัญหาผิวพรรณและความงามทั่วเรือนร่างเป็นสิ่งสำคัญ ปรึกษา Sinota Clinic เพื่อมาร่วมเติมแต่งเอกลักษณ์ความงามของคุณให้เป็นที่จดจำ
สถานที่ให้บริการ
982/22 อาคารศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ชั้น 5 โซนสำนักงาน ห้องเลขที่ 5111-5112 ถ.สุขุมวิท พระโขนง คลองเตย กทม.10110
โทร : 064-239-3291 (HOTLINE : 24 Hr.)
อีเมล์ : info@sinotaclinic.com
เวลาทำการ : ทุกวัน 10.00 – 19.00 น.