จริงหรือไม่ ใต้ตาดำ อาจไม่ใช่เพราะนอนน้อยเสมอไป
ใต้ตาดำหรือขอบตาหมีแพนด้า เป็นปัญหาที่หลายคนอาจกำลังเผชิญอยู่ เพราะปัญหาใต้ตาดำทำให้ใบหน้าดูอิดโรย ดูโทรม ดูมีอายุ ลามไปจนถึงอาจทำให้คุณหมดความมั่นใจไปได้เลย
หลายคนพยายามสรรหาสารพัดวิธีในการรักษาขอบตาหมีแพนด้าให้ดีขึ้นหรือหายไป ด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งการใช้เครื่องสำอางมากลบบริเวณใต้ตา หรือทาอายครีมบำรุงทุกคืน เพื่อหวังว่าจะพบทางสว่าง แต่สุดท้ายแล้วปัญหาใต้ตาดำก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ซิโนต้าจึงอยากชวนทุกคนมาศึกษากันว่าแท้จริงแล้ว สาเหตุที่ใต้ตาของเรานั้นดำไม่ดีขึ้นสักที อาจไม่ได้เกิดจากการนอนน้อยก็ได้
สาเหตุของใต้ตาดำเกิดจากอะไรบ้าง
- อายุที่มากขึ้น ด้วยความที่บริเวณใต้ตาของเราจะมีไขมันอยู่จำนวนมาก จึงทำให้ตอนที่เราอายุยังน้อยใบหน้ามีความสดชื่น ดูเด็กอยู่ตลอด แต่ไขมันจะค่อย ๆ สลายไปเมื่ออายุมากขึ้น จึงทำให้ใต้ตาของเราดูลึกกว่าเดิม และเมื่อใต้ตาลึก ยิ่งทำให้ใบหน้าดูแก่เช่นกัน
- ภูมิแพ้ คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ บริเวณรอบดวงตาจะมีเส้นเลือดดำขยายใหญ่มากกว่าคนปกติ ซึ่งทำให้เกิดอาการคัน และมักขยี้ตาบ่อยครั้งจนทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ ถือเป็นการกระตุ้นเม็ดสีบริเวณนั้นให้สร้างเม็ดสีมากขึ้น ทำให้ผิวใต้ตาคล้ำขึ้นด้วย
- แสงแดด แน่นอนว่ารังสี UV เป็นตัวร้ายของวงการทำร้ายผิว และผิวบริเวณใต้ตามีความบอบบางมาก ซึ่งเมื่อปะทะกับแสงแดดบ่อย ๆ ทำให้ผิวบริเวณใต้ตาบางลงและแสงแดดยังเป็นตัวเร่งการสร้างเม็ดสีมากขึ้นอีกด้วย
- พักผ่อนน้อย และความเครียด เพื่อนรักใต้ตาดำอย่างยาวนาน การพักผ่อนน้อยและความเครียดทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดขาดความสมดุล ทำให้ใต้ตาเกิดความหมองคล้ำได้ง่ายกว่าเดิม
- พันธุกรรม นอนเร็วก็แล้ว ทาอายครีมก็แล้ว ใต้ตาก็ยังไม่หายดำ นั่นอาจเป็นเพราะพันธุกรรมของแต่ละบุคคลนั่นเอง ด้วยพันธุกรรมที่ส่งต่อมาเป็นทอด ๆ จากพ่อและแม่ ทำให้ผิวบริเวณใต้ตาอาจคล้ำกว่าคนทั่วไป โดยส่วนใหญ่จะพบในคนที่มีเชื้อสายอินเดีย อาหรับ หรือยุโรป
“ฟิลเลอร์” ทางออกของปัญหาใต้ตาดำ?
อย่างที่ทราบกันดีว่าในทุกวันนี้พวกเราสรรหาวิธีลดใต้ตาดำกันอย่างจ้าละหวั่น ทั้งการใช้วิธีแบบธรรมชาติที่ใช้แตงกวาหรือมะเขือเทศมาโปะบริเวณขอบตา หรือพยายามนอนเร็วตั้งแต่สามทุ่มแล้วก็ตาม แต่ปัญหาใต้ตาดำก็ยังไม่หายไปสักที เราอาจต้องใช้ยาแรงในการดูแลมากกว่าเดิมทั้งการประทินผิวรอบดวงตาหรือการฉีดฟิลเลอร์
“ฟิลเลอร์” คืออะไร?
ฟิลเลอร์ (Filler) หรือ ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น (Hydration) และทดแทนคอลลาเจนและไฮยาลูรอนที่ร่างกายสูญเสียไปเมื่อมีอายุมากขึ้น สามารถนำมาเติมเต็มได้ทั้งบริเวณปาก ร่องแก้ม ขมับ หน้าผาก และใต้ตา เพื่อให้ร่องลึกใต้ตาดูตื้นขึ้น ดูอ่อนวัย ไม่อิดโรย ผิวใต้ตาจะดูกระชับ เรียบเนียนขึ้น ซึ่งฟิลเลอร์เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายคนเราอยู่แล้ว และสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ จึงเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง
ซึ่งก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่ร่างกาย ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของซิโนต้าจะทำการประเมินปัญหาก่อนเสมอ รวมถึงเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ที่ควรใช้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
ฟิลเลอร์ Restylane
ฟิลเลอร์ เรสเทอเลน เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ได้รับการรับรองและขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) และนำเข้าโดยบริษัท Galderma Thailand
การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา จะช่วยแก้ปัญหาใต้ตาลึก ริ้วรอยใต้ตา และขอบตาดำ เพื่อให้กลับมาสดใสมากขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าไปกระจายเม็ดสีบริเวณใต้ตาให้กระจายออก จะทำให้บริเวณใต้ตาดูสว่างขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้ในปริมาณ 1 – 2 cc. (ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่บะบุคคล) และลหงัฉีดจะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างทันที ซึ่งโดยทั่วไปแล้วฟิลเลอร์จะมีอายุอยู่ในร่างกายเรา 6 – 12 เดือนโดยประมาณ ทั้งนั้นทั้งนั้นขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลด้วย
ก่อนที่เราจะดูแลรักษาปัญหา เราควรรู้ก่อนว่าปัญหานั้นเกิดจากอะไร เพื่อที่จะหาแนวทางในการรักษาได้อย่างตรงจุด โดยทุกคนสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ซิโนต้าได้เสมอ เพราะแพทย์ของซิโนต้ามีความเชี่ยวชาญสูงและมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์มานาน ซิโนต้าเน้นการแก้ปัญหาให้ถูกจุดและทำหัตถการให้ออกมาสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
เพราะปัญหาผิวพรรณและความงามทั่วเรือนร่างเป็นสิ่งสำคัญ ปรึกษา Sinota Clinic เพื่อมาร่วมเติมแต่งเอกลักษณ์ความงามของคุณให้เป็นที่จดจำ
สถานที่ให้บริการ
982/22 อาคารศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ชั้น 5 โซนสำนักงาน ห้องเลขที่ 5111-5112 ถ.สุขุมวิท พระโขนง คลองเตย กทม.10110
โทร : 064-239-3291 (HOTLINE : 24 Hr.)
อีเมล์ : info@sinotaclinic.com
เวลาทำการ : ทุกวัน 10.00 – 19.00 น.