อายุ 25 หน้าแก่ เพราะคอลลาเจนลดลง จริงไหม ?

คอลลาเจน คืออะไร
คอลลาเจน เป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของผิวหนัง ผม เล็บ กระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เป็นโปรตีนที่มีมากที่สุดในร่างกาย โดยคิดเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบคอลลาเจนได้ในส่วนอื่น ๆ เช่น หลอดเลือด กระจกตา และฟัน
ประโยชน์ของคอลลาเจน
หลายคนมองหาวิธีการเติมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย และอาจเกิดความสงสัยว่าถ้ากินคอลลาเจนไปแล้วจะส่งผลดีอย่างไร ซึ่งมีหลายงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับคอลลาเจนแสดงให้เห็นว่าคอลลาเจนมีประโยชน์ ดังนี้
- ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ความชุ่มชื้น ความอิ่มฟู และลดความหยาบกร้านของผิว
- ช่วยทำให้ริ้วรอยดูจางลง
- ลดการเปราะบางของเล็บ
- ช่วยชะลอการสลายของมวลกระดูก
- ช่วยเรื่องสุขภาพของข้อต่อในกลุ่มผู้สูงอายุ เช่น ลดอาการปวดข้อต่อ เป็นต้น
อายุ 25 เพราะคอลลาเจนลดลง จริงไหม
โดยปกติแล้วร่างกายมนุษย์สามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นเองได้ตามธรรมชาติและจะสร้างได้มากในวัยเด็ก แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการผลิตคอลลาเจนก็จะลดลง โดยในช่วงอายุ 20 ปี ร่างกายจะมีคอลลาเจนถึง 75% และจะค่อย ๆ สูญเสียคอลลาเจนไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น เฉลี่ยปีละ 1-1.5% ทำให้ผิวที่เคยกระชับเกิดความหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย และหมองคล้ำ
ความกลัวที่ตามมาเมื่อคอลลาเจนลดลงนั่นคือ “หน้าแก่” เพราะเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป คอลลาเจนจะลดลง เหลือเพียง 20-30% และจะลดลงทุกปีที่อายุเรามากขึ้น


วิธีช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน
เราสามารถเลือกการกินอาหารที่ช่วยชะลอการสลายและมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย และนี่คือเทคนิคที่จะช่วยให้คอลลาเจนในร่างกายอยู่กับเราไปนาน ๆ
- กินโปรตีนต่อวันต้องเพียงพอ ทำให้สร้างคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ อย่างที่ทราบกันแล้วว่าคอลลาเจนคือ โปรตีนชนิดหนึ่ง ดังนั้นการกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ นม ไข่ หรือ ธัญพืชต่าง ๆ ให้เพียงพอความต้องการต่อวัน หรือ 1 – 1.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม การกินโปรตีนที่เพียงพอ ร่างกายจะย่อยเป็นกรดอะมิโนเพื่อนำไปสร้างเป็นคอลลาเจนไปใช้ประโยชน์ต่อสภาพผิว ข้อเข่า หรือมวลกระดูก นอกเหนือจากการนำไปปรับสมดุลของโปรตีนในร่างกายนั่นเอง
- กินอาหารที่มีวิตามิน ซี เพราะวิตามิน ซี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญที่ช่วยชะลอการสลายของคอลลาเจน โดยแหล่งของวิตามิน ซี คือ ผักและผลไม้ต่าง ๆ เช่น ฝรั่ง ผักคะน้า บรอกโคลี สตรอเบอร์รี่ ส้ม แอปเปิ้ลแดง มะนาว เบอร์รีชนิดต่าง ๆ เป็นต้น
- กินอาหารที่มีวิตามิน เอ เพราะวิตามิน เอ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินของร่างกาย ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง โดยแหล่งอาหารที่มีวิตามิน เอ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ นม ผักที่มีสีเขียวเข้มและสีเหลืองส้ม เช่น ตำลึง ผักบุ้ง แครอท มะละกอสุก เป็นต้น
- กินอาหารที่มีวิตามิน อี เพราะวิตามิน อี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำงานคู่กับวิตามิน ซี โดยแหล่งของวิตามิน อี คือ น้ำมันพืชต่าง ๆ เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน เพราะน้ำตาลจะทำให้เกิดกระบวนการไกลเคชัน (glycation) ที่จะส่งผลให้คอลลาเจนเสียรูปร่างและไม่ยืดหยุ่นแบบที่ควรเป็น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 8 – 10 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน น้ำเปล่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างคอลลาเจนในร่างกาย หากดื่มน้ำไม่พอการสร้างคอลลาเจนก็จะลดลงไปด้วย
คอลลาเจนที่ลดลงทุกปีเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้ แต่ใช่ว่าเราจะไม่สามารถชะลอหรือเพิ่มคอลลาเจนให้มีความบาลานซ์ได้ เพียงแค่เราต้องเลือกวิธีการที่เราถนัดและสามารถทำได้จริงในทุกวัน ”หน้าแก่” เป็นเรื่องที่เราหนีไม่พ้น แต่เราสามารถดูแลให้ผิวและร่างกายเสื่อมช้าที่สุดได้ และไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีการไหน ขอให้คุณมั่นใจในตัวเอง เพราะทุกคนมีเอกลักษณ์ความสวยที่น่าจดจำเป็นของตัวเอง
เพราะปัญหาผิวพรรณและความงามทั่วเรือนร่างเป็นสิ่งสำคัญ ปรึกษา Sinota Clinic เพื่อมาร่วมเติมแต่งเอกลักษณ์ความงามของคุณให้เป็นที่จดจำ
สถานที่ให้บริการ
982/22 อาคารศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ชั้น 5 โซนสำนักงาน ห้องเลขที่ 5111-5112 ถ.สุขุมวิท พระโขนง คลองเตย กทม.10110
โทร : 064-239-3291 (HOTLINE : 24 Hr.)
อีเมล์ : info@sinotaclinic.com
เวลาทำการ : ทุกวัน 10.00 – 19.00 น.